เรื่องเล่าข้างสนามไมโล ฟุตซอล 2020 - ทีมโรงเรียนบ้านสำโรงพลัน เรื่องเล่าข้างสนามไมโล ฟุตซอล 2020 - ทีมโรงเรียนบ้านสำโรงพลัน

เรื่องเล่าข้างสนามไมโล ฟุตซอล 2020 - ทีมโรงเรียนบ้านสำโรงพลัน

เรื่องเล่าข้างสนาม

โรงเรียนบ้านสำโรงพลัน : 4 เผ่าไทย ความฝันหนึ่งเดียว กับรถหนึ่งคัน

รถหกล้ออเนกประสงค์คันใหญ่สีขาวของทีมโรงเรียนสำโรงพลัน จากอำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ เคลื่อนตัวเข้าสู่สนามราชันย์ฟุตบอลสเตเดี้ยมอย่างช้าๆ ภายในรถคันนี้มีถึง 44 ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นตัวนักกีฬา โค้ช และ กองเชียร์ทั้งรุ่นพ่อแม่รุ่นตายายและรุ่นจิ๋ว เดินทางมาร่วมการแข่งขันไมโลฟุตซอล 2020 พลังทักษะสร้างทีมแกร่ง รอบคัดเลือกภาคอีสาน ที่จังหวัดอุบลราชธานี

โรงเรียนบ้านสำโรงพลัน1

 

โรงเรียนบ้านสำโรงพลัน2

 

รองนายกเทศบาลไพรบึงนายพงศ์พัช สุภาพ ซึ่งเป็นผู้นำเด็กๆ มาแข่งขันในครั้งนี้บอกว่า “รถคันนี้ใช้กันทั้งหมู่บ้านทั้งงานบุญงานกิจกรรมต่างๆ เพราะเป็นรถของวัด ผมขออนุญาตเจ้าอาวาสมาใช้พาเด็กๆ ไปแข่งขันฟุตบอลทุกครั้ง ครั้งนี้เรามาไกลที่สุดแล้ว เราไม่เคยเดินทางออกมาแข่งนอกจังหวัดเราเลย เด็กๆ ตื่นเต้นตั้งแต่เช้า ถามว่าเมื่อไรรถจะออก อยากไปแข่งกันแล้ว แต่พอขับออกมาได้ชั่วโมงเดียวก็ต้องแวะพักจอดรถ เพราะเด็กบางคนเมารถ มีอ้วกบ้างมึนหัวบ้าง ก็ได้ทุกคนบนรถคันนี้แหละครับช่วยเหลือกันมาจนถึงสนามแข่งขัน”

โรงเรียนบ้านสำโรงพลัน3

 

โรงเรียนบ้านสำโรงพลัน4

 

ทีมโรงเรียนบ้านสำโรงพลันส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันในรายการไมโลฟุตซอล 2020 ด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น ทั้งรุ่น 7-8 ปี และ 9-10 ปี ทีมไหนลงสนามทุกคนก็พร้อมไปยืนให้กำลังใจ เสียงเชียร์ในภาษาถิ่นที่ไม่ค่อยคุ้นหูคอยกระตุ้นนักกีฬา ทำให้หลายคนที่อยู่ในสนามต่างสงสัยว่าเป็นภาษาอะไร สุดท้ายท่านรองนายกเทศบาลไพรบึงก็เดินเข้ามาเฉลยให้ฟังว่า “มันเป็นภาษาเขมรครับ หมู่บ้านของผมมีทั้งไทยลาว ไทยเขมร ส่วยเยอ และ ไทย อาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน อาจจะแตกต่างเรื่องวัฒนธรรมอยู่บ้าง แต่เมื่อคราวรวมตัวกันส่งเด็กๆ ไปแข่งขันกีฬา มันคือการรวมใจกันโดยไม่ต้องอธิบายอะไร ผมเรียกมันยังนี้ครับ 4 เผ่าไทยรวมใจเป็นหนึ่ง”  

โรงเรียนบ้านสำโรงพลัน5

 

ทั้ง 2 รุ่น ของโรงเรียนบ้านสำโรงพลันไปไม่ถึงดวงดาว แต่น้องๆทุกคนกลับไม่ได้แสดงความรู้สึกเสียใจ เพราะการได้ออกจากบ้านตัวเองมาแข่งทักษะฟุตซอลในสนามหญ้าเทียมชั้นดี ถือเป็นโอกาสที่หาได้ยาก เมื่อจบการแข่งขันบรรดากองเชียร์รุ่นใหญ่ต่างก็ให้กำลังใจลูกๆหลานๆ ส่วนบรรดากองเชียร์รุ่นจิ๋วที่ติดสอยห้อยตามมาด้วย ได้แต่เอยปากขอเตะฟุตบอลกันอีกสักทีสองทีก่อนกลับบ้าน เป็นภาพที่อาจจะดูอลเวงไปบ้าง แต่กลับให้ความรู้สึกผูกผันอย่างลึกซึ้งและเมื่อถึงเวลา ทั้งหมดก็ขึ้นรถหกล้ออเนกประสงค์คันเดิมเดินทางกลับพร้อมกับโบกมืออำลาทัวร์นาเมนต์ไมโลฟุตซอล 2020 ที่ให้ประสบการณ์ล้ำค่าแก่พวกเขา 

โรงเรียนบ้านสำโรงพลัน6

 

โรงเรียนบ้านสำโรงพลัน7