เรื่องเล่าข้างสนาม
โรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ B : รวมดาว (สำรอง) ใจใหญ่
“โม๋เราทำได๋ 323 คะแนน คะแนนเต็มเท่าไร วันนี้เราไม่เอาจริ๋ง วันนี้เราแล่นๆ ต่อฉ่าวขอยเอาจริ๋งนิ ถ่าหนะอิพากันไปกรุงเตพฯ ถ่างเหม็ดหนี่และ” นี่คือบทสนทนาอันไร้เดียงสาของพี่น้องฝาแฝดน้องกายและน้องกันหลังจากช่วยทีมโรงเรียนพะตงวิทยามูลนิ B ฝ่าฝันผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกได้สำเร็จ
นอกสนามน้องกายและน้องกันแรงดีไม่มีตกหยอกล้อเล่นกันกับเพื่อนๆ ตลอดเวลา วิ่งไล่จับกันบ้าง เต้นตามเพลงไมโลกันบ้างตามประสาเด็กๆ สนุกกันสุดๆ เมื่อได้ออกมาแข่งขันฟุตบอลแบบนี้ ส่วนในสนามพี่น้องคู่นี้อาจจะเดาะบอลได้ไม่ครบ เลี้ยงติดกรวยไปบ้าง จ่ายพลาดไปหน่อย แต่ “ครูต๋อย” ชนานิศ รักษาชนม์ ผู้เป็นแม่และเป็นผู้ดูแลทีมโรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ B ทีมที่รวมเอานักเตะสำรองของโรงเรียนมาไว้ด้วยกัน กลับเข้าใจและไม่ได้กดดันลูกชายทั้งคู่แต่อย่างใด เพราะตัวเธอทราบถึงศักยภาพของลูกๆ ตัวเองดี
“มีอยู่ครั้งหนึ่ง น้องกายเดินมาบอกแม่ว่าไม่อยากไปแข่งฟุตบอลเลยวันนี้ ไปถึงสนามก็ไม่ได้ลงเล่น หัวอกคนเป็นแม่ก็เศร้าใจนะ แต่เราต้องตั้งสติและพยายามปรับทัศนคติของเขาใหม่ เพราะฟุตบอลเป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม เขาต้องพร้อมสนับสนุนทีมอยู่เสมอ ถ้าเกิดเพื่อนๆ เจ็บลงสนามไม่ได้ ตัวเขานั่นแหละที่ต้องลงไปต่อสู้แทนเพื่อน มันคือสิ่งที่พี่สอนลูกอยู่เสมอ” ครูต๋อยเล่าถึงการถ่ายทอดแนวคิดการเล่นกีฬาให้ลูกแฝดของเธอในวันที่พวกเขาท้อและเกือบที่จะหันหลังให้กับกีฬาฟุตบอล
บทสรุปเส้นทางของโรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ B สิ้นสุดเพียงแค่รอบนี้ แน่นอนว่าน้องกายและน้องกันรู้สึกเสียใจและผิดหวังถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่ทั้งสองก็ร่วมเฮร่วมดีใจ เมื่อเพื่อนๆ ทีมโรงเรียนพะตงวิทยามูลนิธิ A ที่ผู้เล่นทั้งหมดเป็นตัวจริงของโรงเรียน คว้าตั๋วไปแข่งขันรอบสุดท้ายที่กรุงเทพฯ ได้สำเร็จ คงเป็นสิ่งที่เรียกว่า “การเล่นเป็นทีม” ที่ทำให้ลูกแฝดของครูต๋อม ยังคอยสนับสนุนเพื่อนๆ อยู่เสมอและที่สำคัญทั้งคู่ต้องพยายามกลับไปฝึกฝนทักษะลูกหนังเพื่อที่วันข้างหน้าจะได้ก้าวไปอยู่ในทีม A ทีมชุดตัวจริงของโรงเรียน
#MILOFutsal2020 #พลังทักษะสร้างทีมแกร่ง #กีฬาคือครูชีวิต #ไมโลฟุตซอล2020 #ไมโล
ผลิตภัณฑ์ จากไมโล
