วิธีเลือกนมรสช็อกโกแลตให้ลูกดื่มDT วิธีเลือกนมรสช็อกโกแลตให้ลูกดื่มMB

เลือกนมรสช็อกโกแลตให้ลูกดื่มอย่างไรดี กับประโยชน์จากนมช็อกโกแลต

‘นมช็อกโกแลต’ รสชาตินมสุดฮิตสำหรับเด็ก ๆ ที่นอกจากจะหอมอร่อยแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมสารอาหารและตัวช่วยเพิ่มพลัง ให้ร่างกายลูกแอคทีฟ พร้อมรับมือกับทุกกิจกรรมระหว่างวัน พ่วงมาด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย ที่จะทำให้เด็ก ๆ ได้รับโภชนาการที่สมบูรณ์ครบถ้วน แต่หากคุณแม่อยากเลือกซื้อนมช็อกโกแลตให้ลูกดื่ม จะมีวิธีเลือกแบบไหน และนมรสช็อกโกแลตจะมีประโยชน์ต่อร่างกายลูกยังไงบ้าง ตามมาหาคำตอบกันได้ที่นี่เลย

วิธีเลือกนมช็อกโกแลตให้อร่อย ได้สารอาหารครบสูตร

1. เลือกนมรสช็อกโกแลตที่มีน้ำตาลน้อย

​ทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้คำแนะนำว่าควรบริโภคน้ำตาลเฉลี่ยแล้วไม่เกินวันละ 24 มิลลิกรัม ดังนั้นหากต้องการเลือกซื้อนมช็อกโกแลตให้ลูก อย่าลืมอ่านฉลากโภชนาการที่กำกับอยู่ข้างกล่องทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าปริมาณน้ำตาลที่ผสมอยู่ในนม มีสัดส่วนที่พอเหมาะกับช่วงวัยของเด็ก

2. เลือกนมช็อกโกแลตที่มีสารอาหารครบถ้วน

ถ้าอยากให้ลูกดื่มนมช็อกโกแลตให้ได้ประโยชน์สูงสุด คุณแม่ควรเลือกนมที่มีสารอาหารและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยทั่วไปแล้วนมรสช็อกโกแลตที่ผลิตจากนมโคแท้ ๆ นั้น มักจะเป็นแหล่งโปรตีนและแคลเซียมชั้นยอดอยู่แล้ว แต่หากจะเลือกให้ดีที่สุดอาจจะต้องพิจารณาจากส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ส่วนผสมจากมอลต์ ถั่วเหลือง โกโก้ เป็นต้น

 

โดยทั้งสามวัตถุดิบที่กล่าวไปนั้น ล้วนเป็นแหล่งรวมแร่ธาตุและไฟเบอร์สูง ทำให้เด็ก ๆ ได้รับประโยชน์จากสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย และช่วยให้ร่างกายได้รับพลังงานสูงสุด

3. ตรวจสอบวันหมดอายุและบรรจุภัณฑ์

สิ่งสำคัญสำหรับการเลือกซื้อนมรสช็อกโกแลตที่มีคุณภาพคือ การตรวจสอบวันหมดอายุและบรรจุภัณฑ์ทุกครั้ง โดยคุณแม่ควรตรวจสอบวันที่ผลิตและวันหมดอายุบริเวณด้านบนหรือด้านข้างของกล่อง และถ้าหากเป็นการซื้อแบบยกลัง กล่องลังนั้นควรอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่มีการปนเปื้อน ไม่มีรอยขีดข่วน กล่องไม่บุบ หรือไม่อยู่ในสภาพชำรุด เพราะปัจจัยทั้งหมดนี้อาจส่งผลเสียต่อรสชาติ และความสะอาดในการบริโภค

 

รู้วิธีการเลือกซื้อนมช็อกโกแลตให้ลูกกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาเช็กลิสต์กันดูหน่อยดีกว่าว่าสารอาหารและประโยชน์ที่เด็ก ๆ จะได้รับจากการดื่มนมรสช็อกโกแลตนั้นมีอะไรบ้าง​

วิตามินและแร่ธาตุ 15 ชนิดจากนมช็อกโกแลต

1. แคลเซียม

​แคลเซียมถือเป็นแร่ธาตุที่สำคัญและสามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์ที่มาจากน้ำนมของสัตว์ เช่น นมโค นมแพะ และนมแกะ เป็นต้น โดยร่างกายใช้แคลเซียมในการเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของกระดูกและฟันของลูกให้ยังคงแข็งแรงอยู่เสมอ 

2. ฟอสฟอรัส

ฟอสฟอรัสแร่ธาตุที่มีอยู่ในร่างกายมากเป็นอันดับที่สองรองจากแคลเซียม โดยมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยฟอสฟอรัสได้แก่ นมและผลิตภัณฑ์จากนมประเภทต่าง ๆ ไข่แดง เครื่องในสัตว์ อาหารทะเลที่รับประทานได้ทั้งเปลือก รวมไปถึงเครื่องดื่มที่ทำมาจากถั่วและธัญพืช

3. วิตามินบี 2

วิตามินบี 2 มีประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับเด็ก ๆ เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในกระบวนการสร้างการเจริญเติบโต นอกจากนี้วิตามินบี 2 ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกายอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น การบำรุงเส้นผม เล็บ และผิวพรรณ โดยวิตามินบี 2 นั้นเป็นวิตามินที่ดูดซึมในร่างกายและละลายในน้ำได้ง่าย ดังนั้นร่างกายของเด็ก ๆ จึงจำเป็นต้องได้รับวิตามินบี 2 อยู่เป็นประจำ

4. โฟเลต

​โฟเลตหรือโฟลิกคือ วิตามินบี 9 ที่มีส่วนสำคัญในการเติบโตของลูก และมีส่วนในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยให้ตับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เผาผลาญโปรตีน และมีส่วนช่วยในการผลิตน้ำดีที่ส่งผลโดยตรงต่อการย่อยไขมัน โดยโฟเลตจะพบได้มากในธัญพืช พืชตระกูลถั่ว และผักใบเขียว เป็นต้น

5. วิตามินบี 6

วิตามินบี 6 คือวิตามินที่มีความเกี่ยวข้องกับการผลิตสารสื่อประสาทโดยตรง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการรักษาโรคโลหิตจาง โดยสามารถพบได้จากอาหารหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น นม ชีส ไข่ ธัญพืช รำข้าว อะโวคาโด เนื้อสัตว์ ฯลฯ

6. วิตามินเอ

วิตามินเอมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบภูมิต้านทานโรคทั้งระบบทางเดินอาหารและระบบหายใจ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตของกระดูก รวมไปถึงการบำรุงดวงตาและผิวหนัง โดยสามารถพบแหล่งวิตามินเอได้จาก ผักใบเขียว ผักผลไม้สีส้มและสีเหลือง รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ประเภทนม 

7. วิตามินดี

​วิตามินดีเป็นแร่ธาตุหลักที่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม อีกทั้งยังช่วยให้กระดูกของลูกแข็งแรง รวมไปถึงการกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เกิดการอักเสบจากกิจกรรมหรือการออกกำลังกายมาอย่างต่อเนื่อง โดยคุณแม่สามารถหาวิตามินดีให้ลูกรับประทานได้จาก ผลิตภัณฑ์ประเภทนมที่ผสมวิตามินดีและปลา

เลือกนม1

 

8. วิตามินเค

วิตามินเคเป็นมีประโยชน์ต่อร่างกายในแง่ของการห้ามเลือดจากอาการบาดเจ็บ โดยวิตามินเคนั้นจะช่วยป้องกันภาวะเลือดไหลไม่หยุด นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของกระบวนการดูดซึมของร่างกาย โดยสามารถพบวิตามินเคได้จากนม ชีส ไข่ ถั่ว ผักใบเขียว และเนื้อสัตว์

9. วิตามินบี 3

วิตามินบี 3 มีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตในร่างกาย โดยสามารถพบวิตามินบี 3 ได้จาก นม ยีสต์ เมล็ดธัญพืช ถั่ว และเนื้อสัตว์

10. วิตามินบี 1

​วิตามินบี 1 มีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญของร่างกาย รวมไปถึงการเคลื่อนไหวและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของลูก ถึงแม้ว่าร่างกายจะไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินบี 1 ได้เอง แต่สามารถหาได้จากแหล่งอาหารต่าง ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม ธัญพืชและถั่ว สัตว์เนื้อแดง ข้าว และผักใบเขียว​

11. ไอโอดีน

​ไอโอดีนจัดว่าเป็นแร่ธาตุที่สำคัญและจำเป็นต่อการใช้ชีวิตของเด็ก ๆ และคนในทุกช่วงวัย โดยไอโอดีนนั้นจะทำหน้าที่ในการปรับสมดุลและควบคุมให้ร่างกายทำงานอย่างเป็นปกติ โดยแหล่งที่มาของไอโอดีนนั้นอยู่ในอาหารหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม งา ถั่วเมล็ด-แบน รวมถึงอาหารทะเล

12. วิตามินซี

อีกหนึ่งประเภทวิตามินที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือวิตามินซี โดยวิตามินชนิดนี้มีประโยชน์รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมภูมิต้านทานให้ลูก บรรเทาอาการอักเสบของหลอดเลือด ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ เสริมสร้างคอลลาเจน รวมถึงการป้องกันการเกิดโรคหวัดทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

13. วิตามินบี 5

​วิตามินบี 5 มีคุณสมบัติที่ช่วยในการเผาผลาญพลังงานในร่างกายจากโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเม็ดเลือดแดงให้ร่างกายแข็งแรง โดยสามารถพบวิตามินชนิดนี้ได้ในอาหารอย่าง ไข่แดง นม พืชตระกูลถั่ว รวมถึงเครื่องในสัตว์

14. วิตามินบี 7

วิตามินบี 7 มีประโยชน์อย่างมากทั้งในแง่ของการบำรุงและรักษา โดยไบโอตินมีส่วนช่วยในการบำรุงสุขภาพผม ผิว และเล็บ รวมถึงช่วยป้องกันโรคขาดสารอาหารในเด็ก และยังมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบเผาผลาญอีกด้วย ไบโอตินสามารถพบได้จากธัญพืช ถั่วต่าง ๆ ไข่แดง และเครื่องในสัตว์

15. ธาตุเหล็ก

ธาตุเหล็กเป็นอีกหนึ่งแร่ธาตุสำคัญที่มีส่วนในการเสริมสร้างเม็ดเลือดแดง ภูมิต้านทาน มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของลูก และยังเป็นตัวช่วยในการบรรเทาความเหนื่อยล้าให้เด็ก ๆ จากกิจกรรมต่าง ๆ โดยแหล่งอาหารของธาตุเหล็กนั้นมีทั้งธัญพืช เนื้อสัตว์ ผักใบเขียว เป็นต้น

ไมโล นมช็อกโกแลต อร่อยถูกปาก ตัวช่วยเพิ่มพลังให้ลูกรัก

​สารอาหารทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นสามารถพบได้ใน นมช็อกโกแลตมอลต์จากไมโล นม UHT ที่เปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์จากวิตามิน แร่ธาตุ โปรโตมอลต์ และโปรตีนสูงถึง 4,000 มิลลิกรัมอัดแน่นมาเต็มกล่อง เอกสิทธิ์เฉพาะของเนสท์เล่ ตัวเลือกที่คุณแม่มั่นใจได้ว่าจะช่วยเสริมพละกำลัง ให้ลูกสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน มาพร้อมความหอมจากโกโก้และมอลต์ ที่รับรองว่าอร่อยถูกปาก รสชาติถูกใจเด็ก ๆ อย่างแน่นอน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.bangkokhospital.com/content/vitamin-d-forgotten-vitamins 

https://www.pobpad.com/วิตามินบี-2 

https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/วิตามินบี-1-โรคหัวใจ 

https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/670 

https://amprohealth.com/nutrition/vitamin-b5-pantothenic-acid/